การออกแบบทางเดินที่สะดวกสบาย

- วัน แบงค็อก ออกแบบทางเดินเท้าให้ใช้ได้อย่างสะดวกสำหรับทุกคน โดยมีทางเดินระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร ที่ออกแบบโดยใช้หลักการของ universal design บรรยากาศทางเดินโอบล้อมด้วยต้นไม้ ช่วยให้ร่มเงา อากาศเย็นสบาย สร้างบรรยากาศที่น่าอยู่ และยังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายนอกอีกด้วย

- นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งรวม 50 ไร่ ให้ทุกคนเข้ามาใช้ทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ และยังเป็นการช่วยส่งเสริมการเดิน การออกกำลังกาย ตลอดจนกิจกรรมสันทนาการกลางแจ้งในสภาพแวดล้อมที่สะอาด และปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
 

อาคารส่งเสริมสุขภาพ

- วัน แบงค็อก นำอากาศบริสุทธิ์ผ่านไส้กรอง MERV 7 และ MERV 13 เพื่อกรองฝุ่น PM2.5 และ PM10 พร้อมใช้รังสี UV กำจัดเชื้อโรค และมีเซ็นเซอร์รักษาคุณภาพอากาศ

- วัน แบงค็อก ใช้การสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ ออกแบบและเลือกกระจกหน้าต่าง เพื่อให้ได้แสงสว่างที่เพียงพอ สบายตา ช่วยลดความร้อน และเสียงรบกวนจากภายนอก

- วัน แบงค็อก ใช้ระบบไร้สัมผัส ทั้งในห้องน้ำ ระบบจดจำใบหน้า เครื่องสแกน QR โค้ด และปุ่มลิฟต์ เพื่อช่วยส่งเสริมสุขอนามัยในพื้นที่สาธารณะ

- วัน แบงค็อก มีเครื่องกรองน้ำบริการทุกชั้นภายในอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย โดยใช้ไส้กรองคาร์บอน และท่อส่งน้ำไร้สารตะกั่วที่ผ่านการรับรองจาก NSF และมีการทดสอบคุณภาพน้ำดื่มเป็นประจำทุกปี

- วัน แบงค็อก เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย เพื่อลดการสัมผัสกับสารเคมีอันตราย เช่น ปราศจากสารตะกั่ว ปราศจากสารปรอท และมีสาร VOC ต่ำ

ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

-ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ: วัน แบงค็อก มีการประหยัดพลังงานที่สูงกว่ามาตรฐาน ASHRAE 90.1-2010 โดยสามารถประหยัดพลังงานโดยรวมได้ถึง 25.70% เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐาน  จากการคำนวณโดยแบบจำลองคอมพิวเตอร์

- วัสดุผนังภายนอกอาคารที่มีประสิทธิภาพสูง: วัน แบงค็อก ออกแบบวัสดุผนังภายนอกอาคาร ที่มีคุณสมบัติฉนวนกันความร้อนและวัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน

- ระบบไฟอัจฉริยะ: วัน แบงค็อก ใช้เทคโนโลยีตรวจจับแสงธรรมชาติและการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน เพื่อปิดหรือหรื่ความสว่างให้เหมาะสม ช่วยลดการใช้พลังงาน

- การนำพลังงานกลับมาใช้: วัน แบงค็อก ใช้ระบบ ERV เพื่อให้อากาศเย็นที่ระบายจากภายในอาคารมาช่วยลดความร้อนให้กับอากาศที่จะเข้ามาในอาคาร ช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็น 
 

ระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์

- ระบบผลิตน้ำเย็นแบบรวมศูนย์: วัน แบงค็อก เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการใช้สารทำความเย็น รวมทั้งยังเปลี่ยนพื้นที่บนหลังคาเป็นระเบียงและหลังคาสีเขียว

- ระบบกักเก็บน้ำเย็น: วัน แบงค็อก ใช้ระบบกักเก็บน้ำเย็น เพื่อช่วยลดความต้องการการใช้ไฟฟ้า และทำให้ระบบพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น
 

ระบบการจัดการน้ำ

- อุปกรณ์ประหยัดน้ำ: วัน แบงค็อก ติดตั้งอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดการใช้น้ำภายในอาคาร

- ระบบน้ำรีไซเคิล: วัน แบงค็อก นำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดมาใช้ สำหรับระบบชำระล้างของสุขภัณฑ์ การรดน้ำในสวน และใช้กับ cooling tower

- ระบบกักเก็บน้ำฝน: วัน แบงค็อก ออกแบบร่องระบายน้ำแบบเปิดและถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 ถัง เพื่อเก็บน้ำฝนที่ไหลผ่าน และช่วยลดภาระต่อระบบระบายน้ำฝนของเมือง
 

ระบบการจัดการขยะ

- การแยกขยะ: วัน แบงค็อก จัดหาพื้นที่เฉพาะไว้สำหรับการแยกขยะ เพื่อเพิ่มการรีไซเคิล และร่วมมือกับพันธมิตรด้านรีไซเคิลขยะเพื่อให้แน่ใจว่ามีการจัดการขยะอย่างเหมาะสม

- การทำปุ๋ยหมัก: วัน แบงค็อก ติดตั้งเครื่องทำปุ๋ยหมัก เพื่อเปลี่ยนขยะเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ย

- เครื่องบดอัดขยะ: วัน แบงค็อก ใช้เครื่องบดอัดขยะ เพื่อลดปริมาณขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ รวมทั้งลดความต้องการในการขนส่งและลดการปล่อยมลพิษ เพื่อส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีให้แก่คนงานอีกด้วย

- ระบบจัดการขยะจากการก่อสร้าง: วัน แบงค็อก มีการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่า 75% ของขยะจากการก่อสร้าง จะถูกนำไปรีไซเคิลแทนการนำไปฝังกลบ
 

สมาร์ทกริด

วัน แบงค็อก มีสายส่งไฟฟ้าแรงสูงสองเส้น ที่จ่ายไฟเข้ามาภายในโครงการ โดยสมาร์ทกริดจะช่วยบริหารจัดการพลังงานได้ทั่วทั้งโครงการ ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบไฟฟ้าแบบดั้งเดิม โดยระบบนี้ สามารถจัดการกับความขัดข้องของระบบไฟฟ้าได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย

ระบบจัดการน้ำ

ระบบจัดการน้ำของ วัน แบงค็อก มี 2 ระบบ ด้วยการหมุนเวียนน้ำเสียจากโครงการ จากระบบท่อระบายความร้อน และระบบชำระล้างจากพื้นที่ส่วนกลาง นำมาสู่กระบวนการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งทำให้ วัน แบงค็อก ไม่มีการระบายน้ำเสียออกนอกโครงการ ทำให้ใช้ทรัพยากรน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน และช่วยประหยัดน้ำได้อย่างน้อย 40%

ระบบควบคุมและบริหารจัดการของโครงการ

ระบบควบคุมส่วนกลางที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย การปฏิบัติงาน และภัยคุกคามต่างๆ โดยศูนย์ควบคุมนี้ คอยดูแลอุปกรณ์ดิจิทัล สิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ไฟฟ้า อุปกรณ์เคลื่อนที่ตามแนวดิ่ง ท่อประปา ระบบทำความร้อน ระบบบริหารอาคาร และระบบสื่อสาร โดยมีการติดตามตลอด 24 ชั่วโมง

ระบบการสื่อสารแบบไร้รอยต่อ

ระบบสื่อสารที่ล้ำสมัย ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทั้งภายในอาคารและพื้นที่สาธารณะ ด้วยบริการ Wi-Fi ความเร็วสูง ให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวก และรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายความเร็วสูง ทำให้สามารถรวบรวมบริการต่างๆ ไว้ที่โครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสง (Fiber) เพียงเส้นเดียว ซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนและลดโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน แต่ยังคงประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณ ด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi 6 และ 5G ที่รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก พร้อมกับความเร็วที่ไม่สะดุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโครงการก็ตาม 

ระบบการจราจรอัจฉริยะ

ระบบการจราจรอัจฉริยะ นำเสนอข้อมูลตามเวลาจริงแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยเหลือผู้คนในการค้นหาที่จอดรถได้อย่างเหมาะสม โดยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการจราจรอัจฉริยะได้อย่างง่ายดายผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการจองล่วงหน้า ชำระเงินแบบไร้สัมผัส บริการค้นหารถ บริการรับ-ส่ง และบริการชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV ด้วยที่จอดรถกว่า 12,000 ช่อง ระบบการจราจรอัจฉริยะนี้ จะมอบประสบการณ์การจอดรถที่สะดวกสบายให้กับทุกคน

ศูนย์ปฏิบัติการกลางควบคุม วัน แบงค็อก

ศูนย์ปฏิบัติการกลางทำหน้าที่บริหารจัดการระบบอาคารและบริการต่างๆ ภายในโครงการ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องกล ระบบบริหารจัดการพลังงาน และระบบรักษาความปลอดภัย โดยศูนย์ปฏิบัติการนี้ มีระบบติดตามและสนับสนุนการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่า วัน แบงค็อก เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ศูนย์ปฏิบัติการจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ภายในโครงการกับหน่วยงานฉุกเฉิน เพื่อลดผลกระทบต่อทุกคนที่อยู่ในโครงการ

สถาปัตยกรรมสีเขียว

วัน แบงค็อก มีการออกแบบอาคารและพื้นที่สาธารณะให้เป็นไปตามมาตรฐาน LEED, WELL และ TREES เพื่อลดการใช้ทรัพยากร เพิ่มประสิทธิภาพภายใน และยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน โดยโครงการฯ ใส่ใจในความยั่งยืนและนวัตกรรมสีเขียวผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรม และวิศวกรรม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) สำหรับการพัฒนาชุมชนโดยรอบ ซึ่งมีเกณฑ์ด้านความยั่งยืนสำหรับมาสเตอร์แพลน อาคาร ระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนมาตรฐาน WELL จะเน้นเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน โดยครอบคลุมทั้งด้านอากาศ น้ำ อาหาร แสงสว่าง ร่างกาย ความสะดวกสบาย และจิตใจ

การออกแบบเพื่อรองรับอนาคต

วัน แบงค็อก มุ่งเน้นการออกแบบระบบต่างๆ แยกกันเป็นส่วนๆ แต่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว โดยข้อดีของการออกแบบนี้ คือ ความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนง่าย รองรับความต้องการในอนาคต และเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อง่ายต่อการอัพเกรดหรือปรับเปลี่ยน โดยโครงการ ได้ทำงานเชื่อมต่อระบบต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด เช่น เครือข่าย IoT (Internet of Things) และเครือข่าย ICT (Information and Communication Technology) ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงระบบต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยระบบทั้งหมดสามารถอัพเกรดได้ เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์ม IoT และระบบวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยให้ทีมงานสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจที่แม่นยำและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เทคโนโลยีทดแทน การบำรุงรักษา หรือการปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น